ผู้สนับสนุน
หลังจากที่ประเทศไทยได้มีการออกกฎหมายเกี่ยวกับ การห้ามนำเข้า, ผลิต และจำหน่าย ไขมัน trans ในประเทศไทยแล้ว ก็มีเรื่องราวและกระแสต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในวงการโภชนาการ และอุตสาหกรรมด้านอาหาร
การออกกฎหมายคุมการใช้ไขมัน Trans ครั้งนี้ผลกระทบค่อนข้างเป็นวงกว้าง ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สรุปโดยรวมแล้วข้อดีมากกว่าข้อเสีย เนื่องจากเจ้าไขมัน Trans คือตัวปัญหาที่ก่อให้เกิดโรคภัยด้านสุขภาพแก่ประชากร จากการวิเคราะห์จะพบว่าความเสียหายไม่ได้เกิดขึ้นแค่เรื่องค่าใช้จ่ายในการเยียวยารักษา แต่ยังก่อให้เกิดการสูญเสียด้านบุคคลากรของชาติอีกด้วย หากกฎหมายบังคับใช้ได้ผลจริง ก็จะช่วยให้สาเหตุของการเกิดโรคภัยด้านหลอดเลือดตีบตัน, โรคหลอดเลือดหัวใจ, ความดัน และเบาหวานลดลง สำหรับผลเสียก็คงจะเป็นเรื่องของ ต้นทุนการผลิตอาหารที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสินค้าพวกอาหารแพงขึ้น แต่เพื่อแลกกับสุขภาพที่ดีขึ้นก็น่าจะคุ้มค่า
การเกิดไขมัน Trans ไม่ใช่เกิดแค่ในส่วนของการผลิตอาหารของร้านค้าหรือโรงงานที่ผลิต แต่ความจริงแล้ว ในครัวเรือนเองก็มีการสร้างไขมัน Trans ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้น้ำมันพืชผิดประเภท หรือใช้น้ำมันพื้นไม่ตรงคุณสมบัตินั่นเอง
เคยสงสัยไหมว่าทำไมน้ำพืชที่ขายในท้องตลาดนั้นทำไมมีหลายชนิด เช่น น้ำพืชจากถั่วเหลือง, น้ำมันพืชจากเมล็ดทานตะวัน, น้ำมันพืชจากน้ำมันปาล์ม หรือ น้ำมันมะกอกเป็นต้น
โดยปกติแล้วน้ำมันพืชแต่ละชนิดที่เราเห็นกันอยู่ในท้องตลาด จะมีองค์ประกอบของไขมันต่างๆ ไม่เท่ากัน เช่น บางชนิดมีกรดไขมันอิ่มตัว มากกว่า กรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยจะมีเปอร์เซ็นต์ของ กรดไขมันที่ต่างกันไป แต่น้ำมันพืชทุกชนิดจะประกอบด้วยไขมันทั้งสองชนิดนี้เสมอ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกใช้งานน้ำมันพืชแต่ละชนิดให้ตรงกับลักษณะของอาหารเพื่อความปลอดภัย
นี่คือ 4 เคล็ดลับในการใช้น้ำมันพืชให้ปลอดภัย โดยเริ่มจากการรู้จักวิธีเลือกใช้น้ำมันให้ตรงกับลักษณะของการใช้งาน
1 ถ้าเป็นอาหารประเภททอด ใช้ความร้อนสูง และใช้เวลานาน ให้ใช้น้ำมันปาล์ม เพราะองค์ประกอบกรดไขมัน ของน้ำมันพืชชนิดนี้ จะมีกรดไขมันอิ่มตัวมากกว่าชนิดอื่น ซึ่งไขมันอิ่มตัวนี้จะทนความร้อนได้ค่อนข้างสูง จึงทำให้ไม่เกิดไขมัน trans ในขณะการทอด
2. ถ้าเป็นอาหารประเภทผัด ซึ่งมีการใช้เวลาไม่นาน ให้ใช้น้ำมันถั่วเหลือง หรือน้ำมันทานตะวัน เพราะ องค์ประกอบกรดไขมัน ของน้ำมันประเภทนี้จะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่ากรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งจะไม่ทนกับความร้อนมากๆ หากนำน้ำมันประเภทนี้ไปทอดอาหารเป็นเวลานาน โมเลกุลของกรดไขมันไม่อิ่มตัวของน้ำมันชนิดนี้ จะถูกเผาไหม้จนเป็น Trans ได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
3. ถ้าเป็นอาหารที่ใช้ความร้อนเพียงเล็กน้อยหรือไม่ใช้เลย เช่น สลัด เป็นต้น ให้ใช้น้ำมันมะกอก เนื่องจากน้ำมันมะกอกจะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวค่อนข้างสูง มากกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่น ซึ่งหากนำน้ำมันมะกอกไปใช้ผัด หรือทอด จะส่งผลให้เกิดกรดไขมัน trans ให้จำง่ายๆ ว่า น้ำมันมะกอกห้ามใช้ทอดหรือผัดเด็ดขาด เพราะเพียงโดนความร้อน 2-3 นาทีก็เป็น Trans แล้ว
4. ไม่ใช้น้ำมันซ้ำ เป็นกฎที่สำคัญ เพราะถึงแม้จะเลือกใช้น้ำมันถูกประเภท แต่ถ้านำมาใช้ซ้ำก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพเช่นกัน
หลายท่านคงถึงบ้างอ้อกับเหตุผลที่ว่าทำไมน้ำมันพืชถึงมีหลายชนิด แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร คราวหน้าลองสังเกตบ้านของคนที่รู้จักดูว่าเขามีน้ำมันพืชกี่ชนิดอยู่ในครัว ถ้ามีน้ำมันพืชชนิดเดียวใช้ประกอบอาหารทุกอย่าง เข้าใจได้เลยว่าบ้านนั้นยังไม่รู้เคล็ดลับนี้แน่นอน
ผู้สนับสนุน